วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในยุโรป (อิตาลี)




                                                    
                                                                    มหาราชวังเซนต์ปีเตอร์


         มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (Basilica of Saint Peter) ชาวอิตาลีเรียกกันว่า Basilica di San Pietro in Vaticano หรือเรียกสั้นๆว่าเซนต์ปีเตอร์บาซิลิกา (Saint Peter’s Basilica) มหาวิหารนี้เป็นมหาวิหารหนึ่งในสี่ของมหาวิหารหลักในกรุงโรม ประเทศอิตาลี อีกสามมหาวิหารคือ: มหาวิหารเซ็นต์จอห์นแลเตอร์รัน, มหาวิหารซานตามาเรียมายอเร และ มหาวิหารเซ็นต์พอลนอกกำแพง
        มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์เป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในนครรัฐ วาติกันสร้างทับวิหารเดิมที่ชื่อเดียวกัน โดมของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์สูงโดดเด่นสามารถเห็นได้แต่ไกลในตัวเมืองโรม
        นครรัฐวาติกันเป็น นครรัฐเล็กๆที่ปกครองตนเองแยกออกจากรัฐบาลอิตาลี ผู้ปกครองสูงสุดของวาติกันคือ องค์พระสันตะปาปาเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่หนึ่งของคริสตชนนิกายโรมันคาทอลิก ที่ตั้งวัดเชื่อกันว่าเป็นที่ฝังร่างของ นักบุญปีเตอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาวกสิบสององค์ของพระเยซู นักบุญปีเตอร์เดิมเป็นบาทหลวงองค์แรกของอันติโอก (Antioch) ต่อมาก็ได้สถาปนาขึ้นเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกของโรม
        เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ระหว่างการออกอากาศทางวิทยุสมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 12 ประกาศว่าได้มีการค้นพบที่ฝังพระศพของนักบุญปีเตอร์ หลังจากที่นักโบราณคดีใช้เวลา 10 ปี ศึกษาขุดค้นห้องใต้ดิน (crypt) ภายในมหาวิหาร



                                                    
                                                                                Pieta



          Pieta เป็นหนึ่งในประติมากรรมแกะสลักหินอ่อนที่ดีที่สุดในโลก เป็นผลงานของไมเคิลแองเจลโล ภาพนี่เป็น moment ขณะที่พระแม่มารีเข้าไปอุ้มร่างไร้วิญญาณของพระเยซูที่ถูกปลดจากการตรึงบน กางเขน ลองดูใบหน้าพระแม่มารี สีหน้า แววตา ดูเศร้า ได้อารมณ์และงดงามสุดๆ รายละเอียดความพริ้วของเสื้อผ้าที่แกะจากหินอ่อนทั้งก้อน สรีรภาพของพระเยซู รอยตะปูบนหลังมือเท้าของพระเยซู สุดสุด
        ตอนที่ไมเคิลแองเจลโลแกะรูปนี้เขาเป็นศิลปิน โนเนมวัย 23 ปีที่เดินทางจากบ้านนอกเมืองฟลอเรนซ์มาโรม ตอนแกะรูปนี้เสร็จ คนในโรมตะลึงในความงาม โดยเข้าใจว่าคนที่แกะเป็นศิลปินอีกท่านนึงที่มีชื่อเสียงในขณะนั้น จนวันหนึ่ง ไมเคิลแองเจลโลจึงได้ทำสิ่งที่เขาทำครั้งแรกและครั้งสุดท้าย คือแอบมาสลักชื่อตัวเองบนรูปแกะสลัก Michael Angelus Bonarotus Florentinus Faciebat คือนามเต็มของยอดศิลปินผู้นี้ ซึ่งเป็นผลงานเดียวที่เขาสลักชื่อไว้ ว่ากันว่า ไมเคิลแองเจลโลเสียมารดาก่อนมากรุงโรม รูปนี้จึงแกะสลักออกมาได้อย่างได้อารมณ์ของการสูญเสียคนที่รัก และเขาก็แจ้งเกิดจาก Pieta



                                        
                                                                      สวิสการ์ด


         สวิสการ์ด ผู้อารักขาชาวสวิส มีหน้าที่ปกป้องดูแลนครรัฐวาติกัน ซึ่งในอดีตมีคนต้องการลอบปลงพระชนม์พระสันตะปาปา สวิสการ์ดเนี่ยแหละที่คอยปกป้องจนต้องสละชีพของตนเอง ในสมัยโบราณชาวสวิสมีอาชีพหลักหนึ่ง คือ ทหารรับจ้าง ซึ่งขึ้นชื่อในด้านความซื่อสัตย์ และกล้าหาญ



                                                            
                                                                      ซุ้ม Baldacchino 


               ที่ตั้งเหนือหลุมศพจริงของเซนต์ปีเตอร์ หลุมศพท่านอยู่ที่นี่มาก่อนแล้วจนกระทั่งโรมันหมดอำนาจ กษัตริย์แห่งโรมหันมานับถือศาสนาคริสต์เอง จึงให้มีการก่อสร้างโบสถ์ครอบหลุมศพเซนต์ปีเตอร์ที่นี่ เพื่อเป็นการยกย่องและเชิดชูท่าน และนั่นคือจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของศาสนจักรในเวลาต่อมา การสร้างโบสถ์นี้ไม่ง่ายมีอุปสรรคมาก สุดท้ายคนที่ออกแบบ Basilica di San Pietro แห่งนี้ก็คือไมเคิลแองเจลโล ที่มีโอกาศเห็นแค่การสร้างฐานราก มหาวิหารนี้มาสร้างต่อโดยศิลปินเอกอีกท่านนาม Bernini ประติมากรรมเซนต์ปีเตอร์ภายในมหาวิหาร ท่านถือกุญแจในมือ ผู้คนนิยมมาลูบหรือจุมพิตแทบเท้า และตั้งจิตอธิษฐาน เซนต์ปีเตอร์เป็นอัครสาวกเอกของพระเยซู ในยุคโรมันเรืองอำนาจท่านเองก็เป็นบุคคลหนึ่งที่เสียชีวิตเนื่องจากการ ต่อสู้เพื่อศาสนาคริสต์ ยุคนั้นใครนับถือคริสต์ถือว่าเป็นคนนอกรีด ท่านเสียชีวิตจากการถูกตรึงบนกางเขน แต่ท่านขอถูกตรึงในลักษณะกางเขนที่กลับทิศกับของพระเยซูเนื่องจากท่านว่าไม่ มีใครเสมอเหมือนพระเยซูได้ และโรมันก็ปฏิบัติตามคำขอนั้น


                                                 
                                                                      โคลอสเซียม



           สนามกีฬาโคลอสเซียม (ประเทศอิตาลี) - The Colosseum หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ขของโลกที่ได้รับการคัดเลือกจาก องค์กร New 7 Wonders
        เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เริ่มสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเวสเปเซียนแห่งจักรวรรดิโรมัน และสร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัส ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 หรือประมาณปี ค.ศ. 80 อัฒจันทร์เป็นรูปวงกลมก่อด้วยอิฐและหินทรายวัดโดยรอบได้ประมาณ 527 เมตร สูง 57 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน มีการออกแบบอย่างชาญฉลาดโดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆในปัจจุบัน
        แต่เดิม สัญลักษณ์ของกรุงโรมแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่า ?ฟลาเวียน แอมพิเธียเตอร์? ตามนามสกุลของจักรพรรดิผู้ให้การสนับสนุนการก่อสร้าง โดยนับเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างขึ้นมาใน สมัยอาณาจักรโรมัน ครั้นเมื่อเสร็จสมบูรณ์ โคลอสเซี่ยมได้ถูกใช้จัดการแข่งขันกลาดิเอเตอร์ การประหาร และการแสดงละครเกี่ยวกับทวยเทพเพื่อมอบความบันเทิงให้แก่ผู้ชม ปัจจุบัน สนามกีฬาโคลอสเซียมได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อต้านโทษประหารชีวิต โดยโคลอสเซียมจะส่องสว่างด้วยสีเหลืองทุกครั้งที่มีการกลับคำตัดสินหรือยก เลิกโทษประหารชีวิตไม่ว่าจะที่ใดในโลก ในบางครั้งจะมีการเรียกชื่อ โคลิเซียม (Coliseum)



                                        
                                                                         โรมันฟอรัม

           โรมันฟอรัม เป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งทุกอย่างในสมัยโรมันเรืองอำนาจทั้ง ธุรกิจ การเมือง และศาสนา ตัวหมู่อาคารฟอรัมทั้งหมดใช้เวลาก่อสร้างในช่วงเวลายาวนานถึง 900 ปี เป็นที่ประกอบศาสนกิจ ที่ชุมนุมทางการเมืองแต่เมื่อจักรวรรดิโรมันเสื่อมลง ฯลฯ โรมันฟอรัมก็ถูกทิ้งร้างจนถึงยุคกลางก็กลายเป็นเพียงซากปรักหักพังที่มีหญ้า ขึ้นรกเรื้อและมีการนำฝูงสัตว์เข้ามาเลี้ยง ปล่อยให้กินหญ้า ชิ้นส่วนอิฐและหินอ่อนถูกรื้อนำไปสร้างบ้านเรือน จนกระทั่งเข้ายุคเรอเนสซองส์ซึ่งผู้คนหันมาให้ ความสนใจกับศิลปินวิทยาการของโรมันกันอีก โรมันฟอรัมก็ได้กลายเป็นแหล่งค้นคว้าหาความรู้และเป็น แรงบันดาลใจให้กับศิลปินหลายต่อหลายคน เริ่มมีการขุดค้นทางโบราณคดีและการขุดค้นศึกษาต่าง ๆ ก็ยังคงดำเนินอยู่จนทุกวันนี้




                                                   
                                                                  ประตูชัยคอนสแตนติน


          ประตูชัยคอนสแตนติน เป็นหนึ่งในหลายๆ ประตูชัยที่ใหญ่ที่สุดของโรมัน ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ประตูชัยถูกสร้างขึ้นเพื่อสดุดีจักรพรรดิ์คอนสแตนตินที่ได้รบชนะ จักรพรรดิ์ แมกเซนเทียส ซึ่งนำความสงบสุขมาให้หลังจากมีสงครามกลางเมืองมายาวนานกว่าร้อยปี ประตูชัยมีทั้งหมดสามประตูและได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามด้วย รูปปั้นและภาพแกะสลักนูนโค้งบรรทึกเรื่องราว ต่างๆ ในอดีต

  






http://www.thaifly.com/TH/guide/italy.php

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น